2. ประธานของประโยคเป็นบุรุษที่ 3
3. ต้องเป็นเรื่องปัจจุบัน
หากไม่ครบหลัก 3 ประการตามที่กล่าวมาแล้วไม่ต้องเติม s ที่กริยา
ประโยคที่เป็นปัจจุบันประธานที่เป็นเอกพจน์ และบุรุษที่ 3 แต่ถ้ามีกริยานุเคราะห์อยู่ในประโยคนั้น กริยาไม่ต้องเติม s เช่น
He speaks English. (ไม่มีกริยานุเคราะห์)
เขาพูดภาษาอังกฤษ
He can speak English. (มีกริยานุเคราะห์ไม่ต้องเติม s ที่กริยา)
เขาพูดภาษาอังกฤษได้
การเปลี่ยนประโยคที่เป็น Present tense ให้เป็นประโยคคำถาม ให้ดูว่าประธานของประโยค เป็นเอกพจน์หรือเปล่า เป็นบุรุษที่ 3 หรือเปล่า ถ้าเป็นทั้งเอกพจน์และบุรุษที่ 3 และไม่มีกริยานุเคราะห์ในประโยคนั้น ต้องใช้ Does นำหน้าประธาน และกริยาไม่ต้องเติม s เช่น
ประโยคบอกเล่า
|
ประโยคคำถาม
|
He comes here.
เขามาที่นี่
Your dog barks at that stranger.
สุนัขของคุณเห่าคนแปลกหน้าคนนั้น
|
Does he come here?
เขามาที่นี่หรือ?
Does Your dog bark at that stranger?
สุนัขของคุณเห่าคนแปลกหน้าคนนั้นหรือ?
|
ประโยคบอกเล่า
|
ประโยคคำถาม
|
You like this rose.
คุณชอบดอกกุหลาบดอกนี้
|
Do you like this rose?
คุณชอบดอกกุหลาบดอกนี้ไหม?
|
I do not smoke a cigarettes. (I เป็นเอกพจน์แต่ไม่ใช่บุรุษที่ 3 )
ผมไม่สูบบุหรี่
They do not smoke a cigarettes. (They เป็นบุรุษที่ 3 แต่ไม่ใช่เอกพจน์)
เขาทั้งหลายไม่สูบบุหรี่
My friend does not smoke a cigarettes. (My friend เป็นทั้งเอกพจน์และบุรุษที่ 3)
เพื่อนของฉันไม่สูบบุหรี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น